สิ่งต่างๆ มาสู่เราด้วยกรรม และเมื่อกรรมนั้นหมดลงมันก็จากเราไป
"...เมื่อผู้คนบรรลุในความลงตัวระหว่างสิ่งที่เขาต้องการและสิ่งที่เขามี เมื่อนั้นเองเขาก็ค่อยผ่อยคลายสบายใจ กระนั้น ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ผู้คนต้องการนั้นก็อาจก่อให้เกิดความเศร้าและความโกรธได้อย่างยิ่ง เกี่ยวกับความเศร้าและความโกรธนี้ สิ่งที่เป็นความทุกข์กังวลที่สุดนั้นมาจากมโนคติแห่งความครอบครองเป็นเจ้าของ
มองไปยังผู้คนที่เศร้าโศกสิ เขาเหล่านั้นเป็นทุกข์เมื่อสูญเสียสิ่งที่เขาให้ค่าไว้อย่างสูง เหตุการณ์เช่นนี้สอนเราว่า ความยึดมั่นของเรานั้นฝังลึกอยู่เพียงใด เราอาจพูดได้กระทั่งว่าในความรู้สึกแล้วมันเป็นการสูญเสียสองเท่า เพราะเธอมักจะสูญเสียทั้งวัตถุและความรู้สึกของเธอ ในกรณีนี้ มันจะดีที่สุดสำหรับสุขภาพทางใจของเธอเองที่จะละวางความยึดมั่นและมีการเปลี่ยนแปลงหัวใจของเธอ
เราเกิดมาโดยไม่มีสิ่งใด และถ้าเธอมองให้ใกล้ลงไปอย่างแท้จริง ไม่มีสิ่งใดเลยที่เธอสามารถเรียกได้จริงว่าเป็นของเธอ สิ่งต่างๆมาสู่เราด้วยกรรม และเมื่อกรรมนั้นหมดลงมันก็จากเราไป พูดอีกอย่างหนึ่งคือ เพราะว่าตัวฉันไม่ได้ดำรงอยู่อย่างแบ่งแยก ดังนั้น ตัวฉันจะสามารถเป็นเจ้าของสิ่งที่ไม่ได้ดำรงอยู่อย่างแบ่งแยกนี้ด้วยได้อย่างไร? สิ่งต่างๆอยู่กับเราเพียงชั่วขณะหนึ่ง และมันก็เท่านี้ล่ะ กลุ่มก้อนแห่งกรรมที่ผ่านมาได้แวะเยี่ยมเยือนเรา เราผู้ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนแห่งกรรมที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน แล้วมันก็จากเราไป เหมือนกับที่บางคราวเราก็จากมันไป..."
-- พระอาจารย์ พอบจอง ,법정스님 (พ.ศ.๒๔๗๔-๒๕๕๓) แห่งพุทธศาสนานิกายซอน (เซ็น) ในเกาหลี